OS - Open Your Eyes - Special [MinHyun's Birthday]







       

        "คุณมินฮยอนคะ ท่านเรียกไปพบค่ะ"


       มินฮยอนพยักหน้ารับสาวใช้ที่เป็นธุระเดินมาเรียกเขาถึงห้องก่อนจะวางเอกสารการรักษาอาการป่วยของแม่ที่อ่านค้างอยู่ลง มินฮยอนรู้สึกแปลกๆนิดหน่อยที่อยู่ๆท่านก็เรียกไปพบทั้งที่ตั้งแต่มินฮยอนย้ายเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ท่านไม่เคยคุยกับเขาเลยสักคำแม้จะเดินสวนกันก็แทบไม่เหลียวตามอง ด้านมินฮยอนเองก็ไม่มีความกล้าพอจะเข้าไปคุยกับท่านเพราะรู้ว่าไม่ควร


ส่วนท่านที่ว่าน่ะ... ก็คือท่านประธานาธิบดี ยูซึงซอล พ่อของซอนโฮ...



        มินฮยอนย้ายเข้ามาอยู่กับซอนโฮเป็นเวลาสามเดือนแล้ว หลังจากเรื่องวันนั้นซอนโฮก็เทียวไปเทียวมาที่คลับบ่อยๆ บ่อยเสียจนพลาดโดนปาปารัซซี่แอบถ่ายเข้าจนได้ กระแสวิพากษ์วิจารณ์ด้านลบมากมายถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของลูกชายประธานาธิบดีเป็นข่าวใหญ่ไปทั่ว ช่วงนั้นซอนโฮถูกกักบริเวณอยู่ที่บ้านเกือบสองสัปดาห์ได้ แต่แรงต่อต้านไม่กินไม่นอน ไม่ออกจากห้องของซอนโฮสุดท้ายผู้เป็นพ่อก็ใจอ่อนในที่สุด ยูซึงซอลที่รักลูกชายเสียงยิ่งกว่าอะไรยอมขอร้องให้ลูกชายโอนอ่อนพร้อมกับข้อตกลงที่ว่าอณุญาติให้ซอนโฮพามินฮยอนเข้ามาอยู่ที่บ้านด้วยกันได้ตามคำขอแต่ก็ต้องแลกกับการเลิกเหลวไหลและอยู่ในกรอบที่ผู้เป็นพ่อพึงพอใจ



        นั่นจึงเป็นเหตุผลให้มินฮยอนได้เข้ามาอยู่ที่นี่ แน่นอนว่าในคราวแรกมินฮยอนปฏิเสธ แต่เด็กเอาแต่ใจอย่างซอนโฮมีหรือจะยอม สุดท้ายก็เป็นมินฮยอนที่ยอมมากับซอนโฮแม้จะกังวลถึงเรื่องความไม่เหมาะสมและความต่างอีกหลายๆด้านของตนและซอนโฮ


        "สวัสดีครับ ท่านเอ่อ...เรียกพบผม"


       คนอวุโสกว่าวางหนังสือพิมพ์ธุระกิจประจำวันลงด้วยท่าทางสุขุมไม่ยินดียินร้ายกับการมาถึงของมินฮยอนสักเท่าไหร่ ก่อนจะถือแก้วชาแล้วเดินไปทิ้งตัวลงที่โซฟากลางห้อง


        "นั่งก่อนสิ" 


       ยูซึงซอลกล่าวอนุญาตให้คนที่ยืนเกร็งอยู่มุมห้องนั่งลงยังโซฟาฝั่งตรงข้ามด้วยใบหน้าเรียบเฉย ยูซึงซอลมองหน้าชายที่เข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะคนรักของลูกชายอย่างพิจารณา ก่อนจะยกแก้วชาขึ้นดื่ม


        "ฮวังมินฮยอน"

        "ครับ"

       "คิดจะอยู่ที่นี่ไปอีกนานแคไหน"


        มินฮยอนตัวชาเพราะคำถามที่ตรงไปตรงมาเสียจนคิดคำตอบไม่ออก อันที่จริงเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะอยู่ที่นี่ไปนานแค่ไหนเพราะไม่เคยคุยกับซอนโฮเกี่ยวกับการมาอยู่ที่นี่เลย ครั้นจะคุยจริงจังทีไรซอนโฮก็เฉไฉไปเรื่องอื่นตลอด 

       "เรื่องนั้นผม..."

       "นายทำงานอะไร"

       และคำถามที่ยากเสียกว่าคำถามก่อนหน้าก็คือคำถามนี้ เพราะคำตอบคือมินฮยอนกำลังว่างงาน... ช่างไร้สาระสิ้นดีที่ชายวัย 26 ปี ยังว่างงานอยู่ แถมยังเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังโตด้วยความเอาแต่ใจของลูกชายเจ้าของบ้าน คนเป็นพ่อที่ไหนจะยอมรับผู้ชายแบบนี้ได้ ผู้ชายที่อดีตก็เป็นเพียงพนักงานออฟฟิศธรรมดาๆ แถมปัจจุบันยังว่างงาน ไม่เหมาะสมกับลูกชายท่านประธานาธิบดีสักนิด


        "ตอนนี้ผมกำลังหางานอยู่ครับ"

        "เป็นพนักงานออฟฟิศน่ะเหรอ"


       มินฮยอนไม่แปลกใจที่คนอย่างยูซึงซอลจะรู้ภูมิหลังของตัวเอง คนมีอำนาจล้นมือแบบนั้นแค่ยกหูโทรศัพท์ก็คงรู้ไปถึงโคตรเหง้าเขาได้แล้ว มินฮยอนไม่รู้ว่าต้องตอบคำถามแบบไหนให้ออกมาเหมาะสมกับสถานการณ์ตรงหน้ามากที่สุด จึงทำได้เพียงพยักหน้ากลับไปตามความจริง


       "รูปลูกฉันกับนายเดินควงกันอยู่บนนิตยสารทุกเล่มขนาดนั้น นายยังจะคิดไปทำงานออฟฟิศอีกเหรอ"


       ใช่ มินฮยอนเห็นภาพตัวเองเดินควงกับซอนโฮทุกครั้งที่ออกไปไหนมาไหนกับด้วยกัน กระทู้ต่างๆนานาที่สันนิจฐานว่าเขาเป็นไฮโซลึกลับที่กำลังคบหากับซอนโฮนั่นก็ยิ่งทำให้เขาหนักใจ จริงๆแล้วเขาก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งก็เท่านั้น


       "อย่าทำอะไรที่ฉันและลูกชายต้องขายหน้า"

        "ผมขอโทษครับ"

        "ออกไปได้แล้ว"


        มินฮยอนกล่าวลายูซึงซอลก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงานท่านประธานาธิบดีด้วยใจที่หนักอึ้ง ที่เขายอมเข้ามาอยู่ที่นี่ตามคำขอของซอนโฮก็เพราะเราต่างคนต่างมีความรู้สึกดีๆให้กันและอยากที่จะใช้เวลาอยู่ด้วยกันก็เท่านั้น ซอนโฮเป็นห่วงที่มินฮยอนถูกยึดบ้านเพราะกู้เงินจากธนาคารไปรักษาแม่ มินฮยอนยอมรับว่าไม่มีที่ไป แต่ก็ไม่คิดว่าการเข้ามาอยู่ที่นี่จะทำให้เขาดูน่าสมเพชขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่ซอนโฮที่คอยพูดปลอบเขาทุกๆวันเขาคงอยู่ต่อไปไม่ไหว





//




       "เห้อ..."


       มินฮยอนทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงกว้างที่ตนใช้นอนกับซอนโฮทุกคืนอย่างเหนื่อยหน่าย ตั้งแต่ออกมาจากห้องของยูซึงซอลเขาก็หยุดคิดถึงเรื่องการออกจากบ้านนี้ไม่หยุด แต่อีกใจเขาก็ไม่อยากห่างจากซอนโฮ


       "ทำไมถอนหายใจขนาดนั้นล่ะคุณ"


       แรงกอดจากด้านหลังทำให้มินฮยอนรู้ว่าคนเด็กกว่าได้กลับมาถึงแล้วหลังจากออกไปข้างนอกเสียตั้งแต่เช้าตรู่จนค่ำป่านนี้  เสี้ยวหน้าน่ารักที่โผล่มาเกยที่ไหล่ทำให้มินฮยอนอดไม่ได้ที่จะหันไปฝังจมูกลงกับแก้มนุ่มนิ่มสักที


        "คิดถึงคุณไง"


        ซอนโฮยิ้มกว้างทันทีที่มินฮยอนพูดจบ มือเล็กซุกซนถูไถลูบไล้ไปตามหน้าท้องแกร่งที่มีลอนกล้ามสวยที่ชอบนักหนาเล่นอย่างชอบใจ 


       "ถ้าคิดถึง งั้นมาเรามากอดกันแรงๆเลยดีไหม"


      พูดยังไม่ทันจบประโยคซอนโฮก็พลิกตัวขึ้นมานั่งหันหน้าเข้าหาอยู่บนตักมินฮยอนเรียบร้อยแล้วและไม่ได้พูดพร่ำทำเพลงอะไรต่อ ริมฝีปากบางกดจูบเข้ากับอวัยวะเดียวกันของมินฮยอน ปากเล็กที่ช่ำช่องการจูบเกินวัยทำหน้าที่อย่างดี ดูดดุนขบเม้มจนมินฮยอนที่แก่กว่าหลายปียังตามไม่ทัน  มือไม้ซุกซนก็ไม่ได้อยู่เฉยคอยปลดเปลื้องอาภรณ์น่ารำคาญออกไปจากตัวมินฮยอนจนหมดรวมถึงของตัวเองด้วย


        สะโพกมนที่นั่งอยู่บนตักจงใจออกแรงบดหมุนวนเข้าที่ส่วนกลางลำตัวของมินอยอนอย่างยั่วยวนจนปลุกเร้าให้ส่วนนั้นแข็งตึงขึ้นมาได้สำเร็จ มือหนาที่สาละวนอยู่กับเอวบางบีนเฟ้นจนผิวเนื้อบริเวณนั้นขึ้นริ้วแดงเป็นปื้นตามแรงมือ 


       ริมฝีปากทั้งคู่ที่ค่อยๆอ้อยอิ่งออกจากกัน มินฮยอนเปลี่ยนเป้าหมายมาที่อกบางที่หอบกระเพื่อมตามจังหวะการหายใจติ่งไตสีชมพูหวานล่อให้ร่างสูงขบเม้มเล่นอย่างเพลิดเพลิน ซอนโฮแอนอกบางเข้าหาอีกคนที่กำลังสนุกสนานกับร่างกายตนอย่างเต็มใจ



        จากอกบางไล่ลงมาถึงหน้าท้องขาวเนียน ซอนโฮเป็นคนกินจุพอสมควรแต่มินฮยอนไม่เคยเห็นว่าซอนโฮจะมีพุงให้เห็นเลยสักที แถมยังเรียบสวยนุ่มนิ่มมือไปหมด มินฮยอนชอบมันมาก ชอบถึงขั้นนอนกอดมันทุกวัน บางวันที่เสร็จจากเรื่องบนเตียงทั้งที่ร่างกายยังเปลือยเปล่ามินฮยอนก็นอนซบหน้ากับหน้าท้องเนียนนี้แหละ 


      แม้จะหยอกล้อกับหน้าท้องสวยจนพอใจแล้วแต่หน้าหล่อๆของมินฮยอนก็ยังไม่ได้ถอยห่างออกจากร่างกายตรงหน้าแม้แต่น้อย จมูกโด่งฝังกดสูดดมคู่กับลิ้นร้อนที่ไล่เลียลากไล้ลงมาเฉียดจุดอ่อนไหวของร่างบางไปมาจนอีกคนต้องพยายามถดขาหลบลิ้นร้อนที่ซุกไซร้ขบเม้มกับซอกขาอ่อนจนเกิดรอยด้วยความเสียวซ่าน  


       ชั้นในตัวน้อยที่ซอนโฮสวมอยู่เป็นปราการสุดท้ายโดนมินฮยอนดึงออกอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นแก่นกลางลำตัวของคนตัวเล็กที่ตั้งชูชันรอการปลดปล่อยจากคนตรงหน้า


       "อ๊ะ"


       มือหนาของมินฮยอนกอบกุมส่วนนั้นไว้ได้ทั้งหมด ก่อนจะรูดรั้งผ่อนคลายความอึดอัดให้ซอนโฮ ร่างบางที่ได้สุขสมดั่งใจร้องครางเสียงหวานออกมาอย่างไม่รู้จักอายเรียกรอยยิ้มจากมินฮยอนได้เป็นอย่างดี เพราะมินฮยอนน่ะชอบเสียงของซอนโฮในเวลานี้มากที่สุดเขาเคยบอกไปแล้ว ยิ่งซอนโฮร้องดังมากเท่าไหร่มือหนาก็ยิ่งเร่งจังหวะเร็วขึ้นเท่านั้น จนเหมือนซอนโฮใกล้จะถึงฝั่งฝันแล้ว อยู่ๆมินฮยอนก็หยุดมือลงเสียดื้อๆ


       "มินฮยอน! แกล้งเหรอ"

       "อ้อนผมหน่อยสิ"


        มินฮยอนยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างที่ชอบทำเวลาได้เป็นเหนือซอนโฮ ตากลมที่กำลังจ้องจะคาดโทษไม่ได้ทำให้มินฮยอนหวาดกลัวแต่อย่างใด ก็แค่แมวขู่ เวลาอ้อนต่างหากที่ทำให้เขากลัว... กลัวว่าจะต้องตายเพราะความน่ารัก


         "มินฮยอนอ่า... ช่วยซอนโฮนะ นะๆ"


         ร่างบางที่ลุกขึ้นมาคล้องคอพร้อมกับซบหน้าลงซุกไซร้บริเวณลำคอแกร่งอย่างออดอ้อนทำให้มินฮยอนพึงพอใจเป็นอย่างมาก มือหนาเริ่มขยับรูดรั้งช่วยให้อีกคนได้ปลดปล่อยตามที่ตกลงกันจนร่างบางเสร็จสุดปลดปล่อยน้ำรักออกมาเต็มมือหนา 


       ด้านคนเจ้าเล่ห์ก็ยังคอยคิดจะเอาเปรียบซอนโฮไม่หยุด มินฮยอนยกร่างบางที่หอบหายใจอยู่กับอกขึ้นจนลอยหวือขึ้นมานั่งบนตักแกร่ง มือหนาที่เต็มไปด้วยคราบน้ำรักลูบวนอยู่กับช่องทางด้านหลังของซอนโฮเพื่อเบิกทางก่อนจะยกสะโพกมนขึ้นให้ช่องทางด้านหลังของอีกคนกลืนกินส่วนกลางลำตัวของตัวเองอย่างเอาแต่ใจ


        "ย๊า! อ๊า"


        ร่างบางร้องเสียงหลงเพราะมินฮยอนเล่นสอดใส่เข้ามาแบบไม่บอกไม่กล่าวทั้งๆที่เขากำลังไร้สติเพราะเพิ่งปลดปล่อยไปได้ไม่ถึงนาที แม้จะมีอะไรกันบ่อยแต่ซอนโฮก็ไม่ได้ว่าจะเคยชินจนไม่รู้สึกเจ็บอีกแล้ว ยิ่งเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ก็ยิ่งเจ็บ แม้หลังจากนั้นจะรู้สึกดีแต่มินฮยอนก็ต้องโดนสั่งสอนซะบ้าง ฝากไว้ก่อนเถอะ


        "ทำให้หน่อยได้ไหมครับซอนโฮ"


         มินฮยอนอ้อนร่างบางที่อยู่บนตักด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ พร้อมกับบีบเฟ้นที่เอวบางแล้วกระแทกสวนแก่นกายหยอกล้ออีกคนให้ทำตามคำขอ จนได้ค้อนวงใหญ่จากซอนโฮอีกครั้ง


       "ฝากไว้ก่อนเถอะนะคนเจ้าเล่ห์"


       แม้จะกล่าวคาดโทษไว้อย่างนั้นแต่สุดท้ายซอนโฮก็ยอมทำให้มินฮยอนอยู่ดี แขนเรียวยกขึ้นคล้องคอร่างสูงไว้เป็นหลักยึดก่อนจะยกสะโพกตัวเองขึ้นและกดลงเพื่อปรนเปรอคนใต้ร่างที่กำลังยกยิ้มพึงพอใจ


         "อยากได้เร็วแค่ไหนก็ตามใจคุณเลยนะ"


        มินฮยอนเอ่ยเย้าซอนโฮเพราะทุกครั้งซอนโฮจะชอบเร่งขอให้มินฮยอนเร็วขึ้นอีกทุกครั้งที่มีอะไรกัน แรกๆมินฮยอนก็ยอมทำตามโดยการเร่งจังหวะตามใจอีกคนนั่นแหละ แต่หลังๆพอขัดใจแล้วเห็นใบหน้าบึ้งๆและสีหน้าต้องการในตัวเองมากเท่าไหร่มินฮยอนก็ยิ่งชอบใจด้วยการแกล้งผ่อนจังหวะขัดขืนคำสั่ง แม้หลังจากเสร็จกิจนั้นมินฮยอนจะโดนทุบยกใหญ่ก็ตาม


มินฮยอนชอบเวลาได้ขัดใจคุณหนูซอนโฮมากที่สุด...



       "อื้ม อ่า"


        ร่างบางยังคงทำหน้าที่ด้านบนได้อย่างดี แถมยังเรียกเสียงครางต่ำจากมินฮยอนได้อย่างดีเช่นกัน  มือบางที่จิกลงขีดข่วนอยู่บนแผ่นหลังยิ่งปลุกกระตุ้นแรงอารมณ์ของร่างสูงให้ลุกสูงยิ่งขึ้น จนเมื่อรู้สึกใกล้จะเสร็จเต็มทนร่างบางบนร่างกลับผ่อนจังหวะลงพร้อมยิ้มเย้ยเป็นการเอาคืน แต่เวลาอยู่บนเตียงน่ะยังไงซอนโฮก็ไม่มีเอาชนะเขาได้หรอก 


       "อ๊ะ อ๊า นี่.. ฮะ อ๊ะ คุณ"


        ร่างสูงรวบเอวบางเข้าหาตัวเพื่อเตรียมพร้อมก่อนจะสวนสะโพกแกร่งใส่คนด้านบนตามแรงอารมณ์ที่โดนอีกคนปลุกปั่นให้หายหมั่นเขี้ยว เสียงครางสุขสมสองเสียงสอดประสานบวกกับผิวเนื้อกระทบกันดังระงมไปทั้งห้องอย่างไม่กลัวว่าจะมีใครมาได้ยิน ซอนโฮกอดร่างสูงเข้าหาตัวมากขึ้นเพราะใกล้จะเสร็จอีกรอบแล้ว ด้านมินฮยอนเองก็รีบเร่งจังหวะตัวเองมากขึ้นอีกเพราะใกล้จะถึงจุดสูงสุดแล้วเช่นกัน 

และทั้งคู่ก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมกันอีกครั้งอย่างไม่มีใครยอมใคร




//




        ซอนโฮจัดการตัวเองเสร็จก่อนและมานั่งรอมินฮยอนอยู่ที่เตียงเดิมที่เพิ่งเล่นบทรักกันไปเมื่อสักครู่เพื่อเตรียมบางอย่างให้อีกคน จนเมื่อคนที่รอเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพหัวเปียกชุ่ม ซอนโฮจึงชูผ้าขนหนูผืนเล็กในมือขึ้นหวังจะเช็ดให้อีกคน มินฮยอนเห็นแบบนั้นก็ยิ่งอดยิ้มเอ็นดูไม่ได้ รีบเดินไปทิ้งตัวลงที่พื้นข้างเตียงให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนนั้นเช็ดผมให้อย่างเต็มใจ


       "คุณ"

       "หืม"


        ซอนโฮเอ่ยเรียกอีกคนที่นั่งอยู่ด้านล่างก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบซองเอกสารจากโต๊ะข้างเตียงมาซ่อนไว้ด้านหลัง ด้านคนที่ขานรับแล้วแต่คนเรียกไม่ยอมพูดต่อก็เกิดความสงสัย รีบกลับหลังหันมาเผชิญหน้ากับคนตัวเล็กที่นั่งยิ้มหวานรออยู่


        "เรียกทำไมครับ"

        "แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ มินฮยอน"


        มินฮยอนทำหน้างง จนมานั่งนึกดีๆถึงจำได้ว่าวันนี้คือวันเกิดของตัวเอง บอกตามตรงว่าเขาลืมวันเกิดตัวเองเสียสนิท เพราะตั้งแต่แม่ป่วยเขาก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจเรื่องตัวเองสักเท่าไหร่


        "อย่าบอกนะว่าคุณลืมวันเกิดตัวเองน่ะ ฮ่าๆๆ"


        "ก็ใช่ครับ ฮ่าๆๆ"


       "คนแก่ขี้ลืม"


       "ยังไงก็ขอบคุณนะครับซอนโฮ"


        มินฮยอนรวบเอวคนที่นั่งอยู่บนเตียงทั้งที่ตัวเองยังนั่งอยู่ที่พื้นข้างเตียงเข้ามากอดอีกทั้งส่วนสูงของเขานั้นก็มากพอให้ซบหน้าลงกับหน้าท้องเรียบสวยที่ชื่นชอบได้พอดิบพอดี 


        "ไม่อยากได้ของขวัญเหรอ"


       "ที่เสร็จไปเมื่อกี้ไม่ใช่ของขวัญหรอกเหรอ"


        มินฮยอนแกล้งหยอกเย้าอีกคนให้ได้ค้อนอีกวง เพราะเห็นอยู่แล้วว่าอีกคนซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง แค่อยากแกล้งให้อีกคนทุบเล่นก็เท่านั้น มินฮยอนน่ะชอบความรุนแรงที่มาจากซอนโฮที่สุด


       "ฮ่าๆ ไม่แกล้งแล้วๆ ไหนล่ะครับของขวัญ"


        ซอนโฮเปลี่ยนสีหน้ามายิ้มตามเดิมก่อนจะหยิบซองเอกสารที่ซ่อนอยู่ด้านหลังออกมา มินฮยอนงงนิดหน่อยเพราะของขวัญที่ซอนโฮให้เป็นแค่ซองที่ใส่เอกสารที่ใส่กระดาษแค่แผ่นเดียวเท่านั้น ถือว่าเป็นของขวัญที่แปลกดี


        "เปิดดูสิ"


      มินฮยอนมองหน้าอีกคนอย่างจับผิดเพราะซอนโฮเอาแต่ยิ้มร่าเริงแปลกๆ เหมือนกำลังจะแกล้งเขาอีก มินฮยอนดึงกระดาษที่อยู่ในซองออกมาดู หัวกระดาษที่เขียนจุดประสงค์ของมันไว้เด่นหลาทำให้เขาอ่านออกเสียงมาด้วยอาการตกใจ


       "หนังสือมอบอำนาจบริหาร?"


       มินฮยอนเงยหน้ามองซอนโฮที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่บนเตียงอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะก้มลงอ่านเนื้อหาในกระดาษอีกครั้ง เนื้อหาข้างในระบุเกี่ยวกับการมอบอำนาจเปลี่ยนโอนผู้บริหารรีสอร์ทแห่งใหม่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ที่ปูซาน มินฮยอนเคยจำได้ว่าซอนโฮเคยเล่าว่ารีสอร์ทแห่งนั้นยูซึงซอลสร้างขึ้นเพื่อที่จะยกให้ซอนโฮ แต่ตอนนี้หนังสือมอบอำนาจในมือชื่อผู้รับกลับเป็นชื่อของฮวังมินฮยอน แถมยังมีลายเซ็นท่านประธานาธิบดีเซ็นมอบเรียบร้อยแล้วด้วย


       "พี่รับไว้ไม่ได้"


       สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้ซอนโฮรู้ว่าอีกคนกำลังจริงจัง ซอนโฮคิดไว้แล้วว่ามินฮยอนจะต้องปฏิเสธ แต่เขาจะให้ก็คือจะให้ เขารักมินฮยอนมากพอที่จะมอบของมีค่าขนาดนี้ให้ได้ เพราะแม้แต่ตัวเขาและหัวใจเขาก็ยังยกให้มินฮยอนไปแล้วนับประสาอะไรกับของแค่นั้น จะว่าเขาเอาแต่ใจก็ว่าเถอะ


       "พี่ต้องรับ ผมจะให้พี่ก็ต้องรับ ถ้าพี่ไม่รับแสดงว่าพี่ไม่รักผม เพราะที่ผมให้เพราะผมรักพี่ พี่จะไม่รับรักผมเหรอ"


      "ซอนโฮ..."


       ซอนโฮโหมดเอาแต่ใจออดอ้อนแบบนี้คือโหมดที่มินฮยอนพ่ายแพ้ เขาเข้าใจที่ซอนโฮอยากจะให้มันกับเขาแต่มันมีค่ามากไปเกินกว่าที่เขาจะรับไว้ได้


       "แต่มันมากเกินไป แค่นี้พี่ก็สมเพชตัวเองจะแย่แล้วนะที่ต้องมาเกาะเราอยู่แบบนี้ พี่ดูแลมันไม่ได้หรอก"


       "ถ้าของแค่นี้พี่ดูแลไม่ได้แล้วพี่จะดูแลผมได้ยังไง"


       "ซอนโฮ..."


       "และพี่ก็ไม่ได้เกาะผม ผมต่างหากที่เกาะพี่...พี่ก็รู้ว่าผมต่างหากที่ขาดพี่ไม่ได้"


        ซอนโฮลุกขึ้นจากเตียงและย้ายไปนั่งที่พื้นกับมินฮยอนพร้อมทั้งกอดร่างสูงที่กำลังคิดหนักเอาไว้เพื่อปลอบโยน  เพราะซอนโฮเข้าใจสถานะของมินฮยอนในตอนนี้ดี แต่ซอนโฮก็แค่อยากจะช่วยคนรักก็เท่านั้น


       "พี่ไม่ต้องกังวลนะ คุณพ่อเป็นคนอณุญาตเอง"


       "ท่านน่ะเหรอ"


       "ก็ใช่น่ะสิ แต่มีข้อแลกเปลี่ยนนะ"


       "....."


       "ถ้าพี่บริหารและทำกำไรที่นั่นได้พี่ก็แค่เอาทุนสร้างมาคืนคุณพ่อ หลังจากนั้นที่นั่นพี่จะทำอะไรกับมันก็ได้ จะเอาส่วนที่เหลือไปรักษาคุณแม่พี่ หรือจะเอามาสู่ขอผมก็ยังได้เลยนะ"


       มินฮยอนหลุดหัวเราะให้กับมุกตลกของซอนโฮพร้อมกับย้อนนึกไปถึงเมื่อเย็นที่ยูซึงซอลเรียกไปพบ คงจะเป็นเพราะเรื่องนี้ถึงได้เรียกเขาไปหากะทันหันแบบนั้น


       "รับไว้เถอะนะครับพี่มินฮยอน นะๆๆ ผมดูแลคนเดียวไม่ไหวหรอก ถือว่าช่วยผมก็ได้ นะ นะครับ นะๆๆๆ"


       ซอนโฮทั้งกอดรัดฟัดเหวี่ยงตื้อเขาไม่หยุด หน้าใสที่ถูไถอยู่กับท่อนแขนนั้นทำให้มินฮยอนใจอ่อน 


       "ครับ พี่ยอมแล้ว"


        ซอนโฮกระโดดโลดเต้นดีใจใหญ่ที่ให้ของขวัญมินฮยอนได้สำเร็จ ฮวังมินฮยอนแม้จะยังหนักใจกับของขวัญชิ้นโตที่สุดในชีวิตที่ได้รับแต่พอมองหน้าซอนโฮแล้วเขาก็คลายกังวลลงไปได้เป็นปลิดทิ้ง


เพราะกลับกันซอนโฮต่างหากที่เป็นของขวัญชิ้นที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา...




END








talk...

หมดพาลังชีวีดดดดดดดดดดดดดดด แงแอ ถึงจะลงช้ากว่าวันเกิดตาพี่ไปมากแต่ก็ดีกว่าไม่ได้ลงเลยนะต้ะ ไม่รู้ว่าสเปเชียลพอไหม 5555555 แต่ตอนนี้ใช้กรtแสไฟแรงสูงมาก ถ่านพลังหน่องหมดเลยทีเดียว 

และส่วนใครที่อิจฉาพี่มินได้ของขวัญชิ้นใหญ่จากน้อง แนะนำได้ทางเดียวเลยครับ ไปเกิดใหม่เป็นมินยอนสิ 55555555555

ฝากด้วยนะต้ะ ตอนพิเศษแบบนี้ค่าตัวหน่องค่อนข้างแพง ถ้าไม่ใช่วันสำคัญบ่แต่งเด้อค่ะ เล่นตัวเก่ง 555555


#ยูอาร์มินซอน


        












ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องเล่าของซองอู

OS - 선물 (SonMul) [SeonHo's Birthday]