OS - 선물 (SonMul) [SeonHo's Birthday]










 OS - 선물 (SonMul) [SeonHo's Birthday]













"พี่มินครับ ซอนโฮไปทำงานก่อนนะ"


เสียงน่ารักของคนน่ารักที่กำลังเตรียมตัวออกจากบ้านดังขึ้น ผมจึงต้องยอมละสายตาออกจากแก้วกาแฟที่กำลังดื่มแล้วเดินตรงไปหาคนน่ารักที่ยืนรอผมอยู่


"ตั้งใจทำงานนะคนเก่ง อย่าทำบริษัทพี่เจ๊งล่ะ"


"แหมพี่มิน ฝ่ายการตลาดต๊อกต๋อยจะทำบริษัทพี่เจ๊งได้ไง"


ช่างน่าเอ็นดูอะไรขนาดนั้นนะคนเรา ไม่รู้หรือไงว่าเวลาทำเป็นถ่อมตัวน่ะมันน่าจับฟัดซะให้เข็ด


"ไม่รู้หรือไงว่าการตลาดน่ะสำคัญ สำคัญกับพี่ด้วย"


ว่าจบผมก็วาดแขนออกไปรวบตัวคนตรงหน้า เท่านั้นคงไม่พอเมื่อกลิ่นแชมพูที่ใช้ร่วมกันลอยมาเตะจมูก ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะฝังจมูกลงไปที่กลุ่มผมนุ่ม ลากต่ำลงมาถึงซอกคอขาวเด่นและสูดกลิ่นหอมนั้นเข้าไปจนเต็มปอด


"พอแล้วครับพี่มินผมกำลังจะสาย"


"ลาสักวันสิ วันนี้วันเกิดนายนะ"


"งอแงซะงั้น เมื่อคืนคุยกันแล้วไงครับ อีกอย่างวันนี้แผนกผมมีประชุม"


"ก็ได้ครับ รีบกลับนะพี่มีของขวัญจะให้"


"เอ๋? แอบไปซื้อมาเมื่อไหร่ครับ"


ดวงตากลมโตฉายแววสงสัยนั่นยิ่งทำให้ผมนึกสนุกขึ้นไปใหญ่
รับรองว่าของขวัญชิ้นนี้น่ะสุดแสนประทับใจแน่ๆ


"เถอะน่า รีบกลับมาแล้วกัน"


"วันนี้ไม่เข้าบริษัทก็พูดได้สิครับ งานผมยุ่งจะตาย อาจจะทำโอทีดึกนะครับ"


"พี่จะรอ"


"งั้นผมไปนะครับ"


ว่าจบคนน่ารักของผมก็ยืดตัวมาหอมแก้มผมแทนการเอ่ยลาก่อนจะหันหลังตรงออกจากบ้านไป







        พออีกคนออกไปและต้องอยู่คนเดียว ความคิดต่างๆก็ไหลย้อนเข้ามาเหมือนภาพฉายในหัว
ผมยังจำได้ดีเด็กแว่นโก๊ะๆที่ผมเกือบขับรถชนที่ลานจอดรถของบริษัท แม้ตอนนั้นผมจะเห็นไม่ชัดว่าเด็กที่ไหนกันที่วิ่งสุ่มสี่สุ่มห้ามาตัดหน้ารถผมแล้วก็วิ่งหนีไปเสียดื้อๆเป็นใคร



แต่อะไรบางอย่างก็ทำให้ผมได้เจอเจ้าเด็กนั่นอีกครั้งในห้องประชุมการตลาด  เด็กที่สัปหงกอยู่สุดห้องแต่ดึงดูดสายตาผมได้ตลอดการประชุม แผนการตลาดใดๆที่กำลังถูกอธิบายอยู่บนจอโปรเจ็กเตอร์ไม่ได้เข้าหัวผมเลยสักนิด
จนเมื่อถึงคิวที่เด็กแว่นของผมต้องออกไปพรีเซนต์แผนการตลาดบ้างนั่นล่ะ ผมถึงได้สนใจงานขึ้นมานิดหน่อย
ให้ตายเถอะนะ... ถ้ารู้ว่าฝ่ายบุคคลรับพนักงานที่น่ารักขนาดนี้เข้ามาผมคงจะมาบริษัทได้บ่อยขึ้น
แต่อยู่ๆการพรีเซนต์ก็หยุดชะงักเมื่อเด็กแว่นของผมเกิดสะอึกขึ้นมากระทันหัน หน้าซีดเผือกเหมือนตัวเองทำอะไรผิดนักหนานั้นมันโคตรน่ารักจนผมกลั้นยิ้มไม่อยู่


"ดื่มน้ำก่อนไหม"



นั่นคือคำแรกที่ผมพูดกับเจ้าคนน่ารักที่ยืนเด๋ออยู่หน้าห้องประชุม ผมยื่นขวดน้ำของผมให้คนที่สะอึกไม่หยุดพร้อมรอยยิ้ม เจ้าเด็กแว่นของผมก็เดินมารับไปอย่างว่าง่าย แต่คงเพราะขวดน้ำที่มันเล็กเกินไป ลำพังผมจับคนเดียวก็แทบกำขวดมิดแล้ว พอมีอีกมือมารับไปจึงทำให้มันบังเอิญได้สัมผัสกัน



พระเจ้าช่วย... มือเจ้าเด็กแว่นนั้นนุ่มเป็นบ้า จนผมแอบจะอดคิดต่อไปไม่ได้ว่าส่วนอื่นจะนิ่มแบบนี้ไหมนะ



      แต่จนแล้วจนรอดการพรีเซ้นสไลด์ของเจ้าเด็กแว่นก็ต้องหยุดไปทั้งๆที่ยังพรีเซ้นไปจบเนื่องจากอาการสะอึกนั้นมันหนักขึ้นและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด คงเพราะตื่นเต้นที่ต้องพรีเซนต์งานชิ้นใหญ่ครั้งแรกต่อหน้าผู้บริหารระดับสูงหลายคน


ผมจึงต้องหาทางแก้ปัญหาชั่วคราวที่ดีที่สุดให้เจ้าเด็กแว่นที่น่าสงสาร หัวหน้าแผนกการตลาดสุดโหดที่ส่งสายตาตำหนิยิ่งทำให้เจ้าเด็กแว่นทำหน้าจะร้องไห้ไปกันใหญ่


แม้จะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุและหวังผลไปสักหน่อย แต่ผมทนมองความน่ารักของโลกใบนี้ที่อยู่ตรงหน้าห่างๆไม่ไหวอีกแล้ว


"เดี๋ยวให้คุณ...?"


"อึก..ยูซอนโฮครับ อึก"


ก้อนสะอึกที่แทรกอยู่ตลอดแม้จะเป็นการแนะนำตัวสั้นๆ นั้นทำให้อีกคนดูน่ารักแทนที่จะดูน่ารำคาญไปซะงั้น
จนผมอดคิดไม่ได้อีกครั้งว่า ถ้าเสียงอึกนั้นไปดังอยู่ที่บริบทอื่นมันจะน่ารักสักแค่ไหนกัน


"งั้นเดี๋ยวให้คุณยูซอนโฮไปพรีเซนต์สรุปต่อที่ห้องทำงานผมแล้วกันครับ"


"คะ..ครับ? อึก"


"เลิกประชุมได้ครับ"


ผมกล่าวปิดประชุมเสร็จทุกคนก็ทยอยออกจากห้องไป เหลือแค่ผมกับเจ้าเด็กแว่นที่ยืนขาสั่นเป็นลูกเจี๊ยบป่วย


"งั้นเดี๋ยวตามผมไปที่ห้องเลยนะครับ"


"ครับ"


เวลาทั้งหมดในห้องทำงานของผมวันนั้นไม่ได้หมดไปกับการพรีเซนต์งานตามที่ว่า แต่หมดไปกับการซักถามประวัติส่วนตัวของเจ้าเด็กแว่นเสียมากกว่า



และไม่ต้องรออะไรให้มากความเพราะหลังจากนั้นเพียงสองเดือนผมก็จีบซอนโฮสำเร็จ ถ้านับจากตอนนั้นจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาปีกว่าแล้วที่เราคบกัน




แม้เวลาอยู่ที่ทำงานสถานะของเราจะเป็นแค่เจ้านายลูกน้องตามที่ซอนโฮขอ แต่พอกลับมาที่บ้านซอนโฮก็ทำหน้าที่แฟนที่น่ารักได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง









21:00 


       จนป่านนี้คนที่ผมกำลังรอก็ยังไม่กลับมา ผมก็เพิ่งรู้วันนี้เองว่าบริษัทผมใช้งานพนักงานหนักขนาดนี้ เห็นทีต้องขึ้นเงินเดือนทั้งบริษัทแล้วล่ะ


แต่เพียงไม่นานเสียงกดรหัสหน้าประตูก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าอีกคนที่อาศัยอยู่กับผมกลับมาแล้ว



"กลับมาแล้วครับ"


"กลับดึกจัง อย่างงี้ต้องเพิ่มเงินเดือนหรือเปล่านะ"


ผมว่าพลางเดินออกไปรับข้าวของที่ซอนโฮหิ้วกลับมาด้วย ก่อนจะหอมแก้มนิ่มนั้นหนึ่งครั้งให้หายคิดถึง


"ก็ดีนะครับ ฮ่าๆๆ แล้วนี่อะไรครับทำความสะอาดซะเอี่ยมเลย ทำอาหารด้วย... ว้าว มีเค้กด้วย"


เจ้าเด็กแว่นเซ่อๆในวันนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปสักนิด ตากลมโตหลังกรอบแว่นที่กำลังตื่นเต้นกับอาหารและเค้กก้อนใหญ่ที่มีลูกเจี๊ยบตัวเล็กประดับด้านบนอย่างน่ารักเหมือนเจ้าของ  ซอนโฮไม่รอช้ารีบตรงไปที่โต๊ะอาหารทันที



หลังจากทานอาหารและเป่าเค้กเรียบร้อย เราทั้งคู่ก็ต่างแยกย้ายไปทำธุระส่วนตัวของตัวเองจนเสร็จสรรพ จนมาเจอกันอีกครั้งตอนที่กำลังจะเข้านอนแล้ว



ผมล้มตัวลงนอนข้างๆเจ้าเด็กแว่นที่กำลังเอนหลังพิงหัวเตียงอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ จนเมื่อแขนของผมกอดเอวบางของเจ้าตัวสำเร็จตอนนั้นแหละเจ้าเด็กแว่นของผมจึงยอมวางหนังสือลง



"จะอ้อนเอาอะไรอีกหรอครับ"


ซอนโฮก้มหน้าลงมาถามผมด้วยรอยยิ้มพลางลูบหัวผมเบาๆเหมือนเอ็นดูผมนักหนา


"แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะครับซอนโฮ"


"นี่รอบที่สองแล้วนะครับ"


ซอนโฮว่าก่อนจะบีบจมูกผมเบาๆอย่างอ่อนโยน แถมยังหัวเราะเสียงใส


"ก็เพราะยังไม่ได้ให้ของขวัญเลยต้องพูดใหม่ไง"


"อ๋อ... แล้วไหนล่ะครับของขวัญ?"


ผมส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ตามแบบฉบับจิ้งจอกทะเลทรายของผมให้เจ้าคนเซ่อของผมก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นแล้วตรงเข้าไปยังจุดเตรียมของขวัญของผม





      ไม่นานผมก็พาตัวเองออกมาพร้อมชุดคลุมอาบน้ำที่ผมบรรจงผูกสายที่เอวให้เป็นรูปโบว์ ริบบิ้นผ้าสองเส้นที่ผมแอบเตรียมตั้งแต่เมื่อกลางวันถูกผูกเข้ากับลำคอและจุกแอปเปิ้ลบนหัว ที่ผมส่องกระจกดูแล้วมันก็น่ารักใช่เล่น


"ฮ่าๆๆๆ ทำอะไรของพี่ครับเนี่ย"


ซอนโฮหัวเราะลั่นแถมยังหัวเราะไม่หยุดจนผมแอบเสียเซลฟ์


"ก็ของขวัญไงครับ พี่เอง... ไม่ชอบหรอ"


ผมแกล้งทำหน้างอนให้อีกคนสงสารและก็ได้ผลเมื่อซอนโฮเงยหน้าขึ้นมายิ้มก่อนจะก้าวลงมาจากเตียงและตรงเข้ามาสวมกอดผมแน่น


"ขอบคุณสำหรับของขวัญนะครับ ผมชอบมากเลย"


ซอนโฮคลายกอดออกก่อนจะจับข้อมือผมแล้วจูงไปนั่งลงที่ปลายเตียง ไม่พอยังพาตัวเองขึ้นมานั่งคร่อมตักหันหน้าเข้าหาผมด้วยท่วงท่าที่ค่อนข้างล่อแหลม


ให้ตายเถอะ... ซอนโฮไม่เคยทำแบบนี้ ซอนโฮไม่เคยทำแบบนี้ ซอนโฮไม่เคยทำแบบนี้



ผมใจเต้นแรงไม่หยุดเพราะตลอดหนึ่งปีที่คบกันมาซอนโฮไม่เคยเริ่มเรื่องนี้ก่อน จะบอกว่าซอนโฮขี้อายก็ใช่ พอมาเจอแบบนี้ผมที่เคยเป็นคนนำเกมส์มาตลอดกับทำตัวไม่ถูก ได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อ ส่วนอื่นก็เช่นกัน...


"ผมขอแกะของขวัญเลยนะครับ"


ผมได้แต่นั่งใบ้แดกเพราะไม่เคยเจอซอนโฮโหมดนี้ เซ็กซี่เป็นบ้าเลยใครก็ได้ช่วยที


ซอนโฮจัดการแกะริบบิ้นที่อยู่บนจุกแอปเปิ้ลของผมออกแล้วประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากผมอีกที


"พี่น่ารักจังเลย"


ผมอยากจะตะโกนกลับไปว่าซอนโฮตอนนี้น่ะน่ารักกว่าอีก แต่ก็อย่างที่บอกตอนนี้ผมพูดอะไรไม่ออกหรอก



        มือบางค่อยๆแกะริบบิ้นที่คอผมต่อ ตามมาด้วยริมฝีบางที่จูบลงบนลำคอผมชวนให้ใจสั่น... ซอนโฮไม่เคยทำแบบนี้


และสุดท้ายปมที่ชุดคลุมอาบน้ำผมก็คลายออกด้วยฝีมือของคนน่ารักที่นั่งอยู่บนตักผมตอนนี้ สองมือน้อยแหวกชุดคลุมของผมออกจากหัวไหล่อย่างง่ายดายจนมันไปกองรวมกันอยู่ที่เอว


มือน้อยๆที่ผมชอบจับเล่นและเขี่ยไปมากำลังปัดป่ายอยู่หน้าท้องของผม ด้วยความตื่นเต้นและลุ้นจนตัวโก่งทำให้ผมเกร็งจนกล้ามหน้าท้องขึ้นรูปเป็นก้อนหกก้อนอย่างสวยงาม


ผมเห็นซอนโฮแอบยิ้มก่อนจะก้มลงประทับจูบลงกับหน้าท้องผมชวนให้ใจหวิว เท่านั้นไม่พอยังเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยแววตาใสซื่ออีก... ซอนโฮไม่เคยทำแบบนี้


แต่อยู่ๆซอนโฮก็ก้าวลงจากตัวผมไปยืนที่ปลายเตียง




"เขยิบขึ้นไปหน่อยสิครับ"


แม้จะงงแต่ผมก็ยอมเขยิบตัวถอยไปเอนหลังพิงกับหัวเตียงอย่างว่าง่าย อีกด้านซอนโฮเองก็กำลังปลดเปลื้องชุดนอนที่สวมอยู่ด้วยใบหน้าแดงก่ำ คงรู้สึกอายแล้วสิท่า แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าถ้าหยุดตอนนี้ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน


เมื่อร่างกายไร้ซึ่งสิ่งปกปิดใดๆ คนน่ารักที่ผมกำลังรออยู่ก็ค่อยก้าวขึ้นมาบนเตียงและคลานเข้าหาผมจนมาหยุดนั่งอยู่บนหน้าขาผมอีกครั้ง



ให้ตายๆๆๆๆ  ซอนโฮไม่เคยทำแบบนี้



ปากเล็กส่งยิ้มให้ผมอย่างอายๆ ทำให้ผมเองอดที่จะส่งยิ้มกลับไปไม่ได้เพราะความน่ารัก ไม่นานปากบางที่ผมรอคอยก็กดจูบลงมาที่ริมฝีปากผมอย่างออดอ้อน แล้วแบบนี้ผมจะไม่จูบตอบได้ยังไง


เราจูบกันอยู่สักพักจนเมื่ออารมณ์มันมาถึงจุดที่ต้องได้รับการปลดปล่อยแล้ว ซอนโฮก็ส่งมือน้อยมากอบกุมความเป็นชายของผมไว้อย่างรู้งาน มือบางที่เลื่อนขึ้นลงเป็นจังหวะค่อยหยุดลงพลางยกสะโพกตัวเองมากดจ่อที่ส่วนหัวทั้งๆที่ยังไม่ละห่างจากการจูบ


ร่างกายของซอนโฮที่กำลังครอบครองตัวตนของผมช้าๆ ส่งผลให้เราทั้งสองคนส่งเสียงครางในลำคอเบาๆด้วยความพอใจทั้งๆที่ริมฝีปากยังคงดูดดุนแลกเปลี่ยนความชื้นแฉะกันอยู่


จนเมื่อร่างกายของซอนโฮครอบครองตัวตนของผมได้จนสุดความยาว ร่างที่อยู่ด้านบนตัวผมก็ถอนริมฝีปากออกและซบลงที่หน้าอกผมแทน มือบางทั้งสองข้างเกาะไหล่ผมแน่น  ลมหายใจหนักๆที่เป่ารดอยู่ที่ต้นคอผมทำให้ผมพอจะรู้ว่าซอนโฮกำลังอดทน เพราะเขาว่ากันว่าเวลาอยู่ข้างบนมันจะเจ็บและจุกกว่ากันเยอะ  ผมจึงก้มลงจูบเข้าที่ขมับที่ชื้นเหงื่อของซอนโฮเพื่อให้กำลังใจ


และก็ได้ผลเมื่อซอนโฮเริ่มยกสะโพกขึ้นและกดลงช้าเพื่อทำความเคยชิน ผมกลั้นเสียงครางต่ำไว้แทบไม่อยู่เพราะความรู้สึกใหม่ที่ได้รับ ยอมรับเลยว่าชอบมากๆ เพราะ... ซอนโฮไม่เคยทำแบบนี้


จนเมื่อซอนโฮเริ่มจะทำความคุ้นชินได้แล้ว สะโพกน้อยๆนั้นก็เริ่มขยับขึ้นลงเป็นจังหวะและเร็วมากขึ้นตามความพึงพอใจ  ผมเองก็อยู่นิ่งไม่ได้ ความน่ารักน่าเอ็นดูที่ทำให้ผมอยากจะรักแรงๆสั่งให้ผมกระแทกเอวสอบสวนขึ้นไปบ้างอย่างไม่มีใครยอมใคร จนสุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายนำเกมส์อีกครั้ง เพราะดูเหมือนซอนโฮจะทนต่อแรงกระแทกที่ผมสวนไปไหวจนหลุดครางจนเสียงหลงออกมาหลายที


ร่างกายที่สอดประสานกันมาเนิ่นนานและเข้าจังหวะกันเป็นอย่างดี ทำให้เกือบจะถึงจุดสูงสุดเข้าเต็มที


"ซอนโฮ... ซอนโฮพี่..."

ผมรู้สึกว่าตัวเองจะแตะถึงจุดสูงสุดของห้วงอารมณ์อยู่แล้วจึงส่งเสียงเรียกอีกคน พลางกอดเอวบางเข้ามาประชิดตัวและซุกหน้าลงกับซอกคอขาว


"อื้อ... อื้อ.. พี่มินผม.. อื้อ"


นิ้วเรียวที่จิกลงกับหัวไหล่ผมแรงขึ้นเป็นสัญญาณว่าซอนโฮเองก็ใกล้แล้วเหมือนกัน ผมจึงเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น จนในที่สุดเราก็เสร็จสิ้นภารกิจพร้อมกัน ผมและซอนโฮเรากระตุกเกร็งตัวพร้อมๆกันอยู่สองสามครั้งก่อนที่น้ำสีขาวขุ่นของผมจะฉีดพุ่งเข้าในร่างกายซอนโฮจนเอ่อล้นออกมา ส่วนของซอนโฮเองก็เปรอะเปื้อนเต็มหน้าท้องผมไปหมด
ร่างด้านบนที่เหนื่อยล้าจนหมดสภาพยังคงซุกอยู่ที่อกผม ลมหายใจถี่ๆที่เป่ารดบนตัวผมทำให้รู้ว่าอีกคนคงจะเหนื่อยพอสมควร



จนเมื่อลมหายใจนั้นกลับมาคงที่ปกติ ซอนโฮที่เงยหน้ามาด้วยสองแก้มที่แดงก่ำนั้นส่งยิ้มให้ผมอย่างน่ารัก ผมอยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าตอนนี้น้องชายผมยังไม่ออกจากตัวเขานะ ถ้าน่ารักเรี่ยราดแบบนี้อาจจะได้เหนื่อยอีก
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอาเปรียบเจ้าของวันเกิดอีกครั้ง ซอนโฮก็ยกสะโพกออกจากตัวผมไปแล้ว มือน้อยเอื้อมไปหยิบทิชชู่ที่วางอยู่ข้างเตียงมาเช็ดทำความสะอาดน้ำรักของตัวเองที่เปรอะหน้าท้องผมออกให้อย่างน่าเอ็นดู เด็กดีของพี่...


ผมเองก็จัดการทำความสะอาดให้เจ้าคนน่ารักของผมจนเรียบร้อยแม้จะเกือบพลั้งมือจัดอีกสักรอบ ถ้าไม่โดนซอนโฮห้ามไว้ก่อนคงมีต่อจริงๆ


"ใครสอนให้ทำแบบนี้หรอ"


ผมเอ่ยถามในขณะที่เรากำลังนอนกอดอย่างเหมือนอย่างปกติทุกวัน หัวเล็กๆที่นอนทับอยู่กับท่อนแขนผมเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มน่ารักชวนให้อยากฟัดพลางทำหน้าทะเล้น


"ไม่บอกหรอกครับ ความลับ"


"ไม่ใช่ว่าไปแอบทำกับใครมานะ พี่ไม่ยอมจริงๆด้วย"


ผมแกล้งทำเป็นงอนแบบไม่จริงจัง จนเรียกเสียงหัวเราะใสแจ๋วได้อีกครั้ง


"เพ้อเจ้อ ผมดูมาจากแผ่นที่พี่ซ่อนไว้ในกล่องเก็บของนั่นแหละ"


"บ้าเอ้ย"


ผมสบถเบาๆพลางนึกขำกับความสะเพร่าของตัวเองและความน่ารักของซอนโฮ พอจะนึกออกว่าไอ้แผ่นนั่นคงเป็นแผ่นที่ผมแอบไว้ดูช่วงที่ผมคบกับซอนโฮแรกๆตอนที่ยังแตะต้องตัวกันไม่ได้ แต่ถ้ารู้ว่าตอนนี้ซ่อนไม่มิดจนซอนโฮเจอเข้าแล้วเป็นแบบนี้ผมจะวางไว้ให้เกลื่อนบ้านเลย


"ขอบคุณสำหรับของขวัญนะครับ ผมชอบมากๆเลย ขอบคุณนะครับพี่มิน"


ซอนโฮพูดจบก็ซุกหน้าเข้ากับหน้าอกผมอีกครั้ง แขนเล็กที่พาดผ่านลำตัวผมก็กอดรัดแน่นขึ้น เขินมากสินะเด็กน้อย


"งั้นพี่ให้อีกดีไหม"


"ไม่แล้ว พอแล้ว"


ผมแกล้งแซวเด็กที่ส่ายหัวพรืดอยู่ที่หน้าอกอย่างนึกเอ็นดู


"แต่พี่อยากให้ทุกวันเป็นวันเกิดซอนโฮให้หมดเลยอ่ะ พี่ใจเต้นแรงจนเกือบตายแน่ะ รู้ตัวตัวไหมว่าวันนี้น่ารักมาก"


"ฮ่าๆๆๆ รู้สิครับ"


"โห... เจ้าเด็กแว่น ร้ายนักนะเรา"


ผมอึ้งในคำตอบที่คาดไม่ถึงของซอนโฮแต่ก็อดยิ้มกับคำตอบไม่ได้เช่นกัน


จากวันนี้ไปผมคงก็ฟิตตัวเองเพิ่มสักหน่อย เพราะวันเกิดซอนโฮปีหน้าผมอาจจะเจออะไรที่อันตรายต่อใจมากกว่านี้อีก เพราะแค่นี้ก็ใจสั่นจะแย่


เจ้าซอนโฮเด็กแว่นที่น่ารักที่สุดของโลกใบนี้ แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะครับ...










Talk...


ใครให้ของขวัญใครกันแน่ 10 คะแนน 55555555555 ถ้าใครอยากคอมเพลนของขวัญชิ้นนี้เชิญได้ที่  #ยูอาร์มินซอน นะคะ

อันนี้เราอยากรู้ฟีดแบคจริงๆว่าดีหรือไม่ดี อยากให้ช่วยบอกกันหน่อย เราจะได้มั่นใจถ้าจะแต่งอันต่อๆไป บอกตรงว่าเรากลัวการแต่งเอ็นซีมาก ช่วยกันติได้นะคะ


ปล.นี่คือเอ็นซีครั้งที่4ในชีวิต ภาษาอาจจะไม่สวยงามและโบราณคร่ำครึต้องขออภัยนะคะ หน่องแต่งเอ็นซีแค่ปีละครั้ง


แฮปปี้ซอนโฮเดย์ค่ะชิปเปอร์ทุกคน รักลูกส่งลูกให้พี่มิน 555555555555555



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องเล่าของซองอู

OS - Open Your Eyes - Special [MinHyun's Birthday]